วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

Provence ( โพรวองซ์ )

โพรวองซ์ (Provence) ดินแดนทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่อยู่ติดกับอิตาลีนั่นเอง และหากพิจารณากันดีๆ แล้ว ภาพอันคุ้นตาที่ว่าสามารถบอกจุดเด่นของโพรวองซ์ได้อย่างหนึ่ง นั่นคือ การเป็นดินแดนแห่งความหลากหลาย
เที่ยวโพรวองซ์
เริ่มจากสภาพภูมิประเทศที่สามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วนตามชื่อ เขตการปกครองอย่างเป็นทางการที่ว่า โพรวองซ์-แอลป์-โกต ดาซูร์ (Provence-Alps-Côte d’Azur) นั่นคือ เขตโพรวองซ์ หรือกลุ่มเมืองบนเนินเขา ที่เชื่อมระหว่างเทือกเขาแอลป์เข้ากับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไว้ด้วยกัน ชาวเมืองเหล่านี้มีอาชีพหลัก คือการปลูกทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ปะปนไปกับการทำไร่องุ่นเพื่อผลิตไวน์ เราจึงเห็นบ้านหลังเล็กๆ สีสดใสแทรกแซมอยู่กับไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ซึ่งทิวทัศน์อันสวยงามที่ว่า ได้เคยดึงดูดศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่างเซซานน์ (Cézanne) และแวน โก๊ะห์ (Van Gogh) ให้มาปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาแล้ว ส่วนที่สองคือส่วนเทือกเขาแอลป์ ที่โดดเด่นเรื่องกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ นอกจากสกีรีสอร์ตกว่า 300 แห่ง แล้วเขตนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อย่างการขี่ม้าชมเขา ปีนเขา ขี่จักรยาน รวมไปถึงการเล่นเครื่องร่อน เขตสุดท้ายคือโกต-ดาซูร์ กลุ่มเมืองริมชายฝั่งทะเล (โกต ดาซูร์ ภาษาฝรั่งเศสแปลว่าชายฝั่งสีน้ำเงิน) หรือที่รู้จักกันในนาม “เฟรนช์ ริเวียร่า” (French Riviera) ที่มีเมืองชื่อคุ้นหูอย่างนีส (Nice) คานน์ (Cannes) และกราสส์ (Grasse) 

Roussillon
Roussillon-in-Autumn
provence-02

โพรวองซ์ ดินแดนแห่งลาเวนเดอร์แคว้นโพรวองซ์ (Provence) เป็นดินแดนที่งดงามที่สุดในฝันฝรั่งเศสตอนใต้ เพราะยังมีธรรมชาติที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ ยิ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมลาเวนเดอร์ผลิดอกสีม่วงบานสะพรั่งอยู่เต็มทุ่ง นั่นคือเสน่ห์หาที่ได้เหมือนไม่ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ดี อาหารอร่อย มีอารยธรรมเก่าแก่ยุคโรมัน เนื่องจากเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่แผ่อำนาจไปทั่วทั้งยุโรป ดังนั้นโพรวองซ์จึงเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว วิมานของนักชิม และนักช้อป แถมเมืองต่างๆ ยังเชื่อมโยงถึงกันได้ไม่ไกลเกินเอื้อม มีทั้งรถไฟและรถบัส
โพรวองซ์เป็นจุดกำเนิดของศิลปะยุคโพสอิมเพรสชั่นนิสม์ มีศิลปินชื่อดังอย่างแวนโก๊ะห์ เซซานน์ หรือ ปีกัสโซ ต่างก็เคยมาปักหลักสร้างสรรค์ผลงานกันที่นี่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ วาดภาพวิวทิวทัศน์อันแสนงดงาม ณ ดินแดนแห่งนี้ เช่นภาพดอกทานตะวัน (Sunflowers) ภาพห้องนอนที่อาร์ล (Bedroom in Arles) ภาพร้านกาแฟตอนกลางคืน (Night Cafe) ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของแวนโก๊ะห์
Provence ยังมีเมืองเล็กๆ มีหมู่บ้านตามชนบท ในขุนเขา หุบผา โตรกธารที่สวยงาม หากต้องการมาท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตชนบทของฝรั่งเศส ที่โพรวองซ์ไม่ทำให้ผิดหวัง ไปเยือนโพรวองซ์ครั้งนี้ยังได้ไปเยี่ยมชมขั้นตอนการปลูกที่ Le Musee de la Lavande เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์แท้ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ครีมอาบน้ำ น้ำมันหอมระเหย ลิปสติก เทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ ชมขั้นตอนการปลูก ไปจนถึงเก็บเกี่ยวด้วยรถ จนนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย จนทราบว่าลาเวนเดอร์แท้นั้น มีลักษณะดอกเดี่ยว ส่วนอีกสายพันธุ์หนึ่ง ชื่อว่า ลาเวนดี้ จะมีลักษณะช่อหนึ่ง แตกออกเป็น 3 ก้าน มีกลิ่นฉุนกว่าลาเวนเดอร์ ซึ่งลาเวนดี้นั้นจะขึ้นง่าย โตเร็วกว่า ชาวบ้านจึงนิยมนำไปปลูกประดับบ้าน
Lavender-and-Sunflowerprov

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

Anne Frank

Anne Frank.jpgอันเนอลีส มารี "อันเนอ" ฟรังค์ (Annelies Marie "Anne" Frank; 12 มิถุนายน พ.ศ. 2472- ประมาณมีนาคม 2488) หรือมักรู้จักในภาษาไทยว่า แอนน์ แฟรงค์เป็นเด็กหญิงชาวยิว เกิดที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เธอมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะผู้เขียนบันทึกประจำวันซึ่งต่อมาได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ บรรยายเหตุการณ์ขณะหลบซ่อนตัวจากการล่าชาวยิวในประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างที่ถูกเยอรมนีเข้าครอบครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ครอบครัวของเธอได้ย้ายไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ในปี พ.ศ. 2476 หลังจากพรรคนาซีเริ่มมีอำนาจ ต่อมาเมื่อกองทัพนาซีเข้ายึดครองเนเธอร์แลนด์ พร้อมกับออกมาตรการควบคุมชาวยิวจำนวนมาก เธอและครอบครัวกับผู้อื่นอีก 4 คนจึงต้องไปหลบซ่อนตัวอยู่ในอาคารสำนักงานในเมืองอัมสเตอร์ดัมของออทโท ฟรังค์ผู้บิดาในห้องลับบนหลังคาตั้งแต่ พ.ศ. 2485 จนถูกหักหลังและถูกนาซีจับเข้าค่ายกักกันในปี พ.ศ. 2487 อันเนอ ฟรังค์เสียชีวิตด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ในเวลาใกล้เคียงกับพี่สาวในค่ายกักกันแบร์เกิน-เบลเซินประมาณเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคม พ.ศ. 2488 สมาชิกตระกูลฟรังค์มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว คือออทโทผู้เป็นพ่อ เขากลับมาอัมสเตอร์ดัมหลังสงครามสิ้นสุดและได้พบสมุดบันทึกของเธอที่เพื่อนเก็บรักษาไว้ให้ จึงพยายามนำออกตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2490 ใช้ชื่อหนังสือว่า "Het Achterhuis" หลังจากนั้นมีการแปลจากต้นฉบับภาษาดัตช์ออกไปเป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย ฉบับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า"The Diary of a Young Girl" ส่วนฉบับแปลภาษาไทยใช้ชื่อว่า "บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์"
อันเนอ ฟรังค์ได้รับสมุดบันทึกเป็นของขวัญวันเกิดครบ 13 ขวบ เธอเริ่มเขียนบันทึกตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2485 และสิ้นสุดในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 บันทึกได้รับการแปลจากภาษาดัตช์ออกเป็นภาษาต่าง ๆ มากมายและกลายเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่มีผู้อ่านมากที่สุดในโลก นอกจากภาพยนตร์แล้วยังมีการนำเรื่องราวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชุดโทรทัศน์ ละครเวทีและแม้แต่อุปรากร งานบันทึกของอันเนอ ฟรังค์ถือว่าเป็นการเขียนงานอย่างผู้ใหญ่เต็มตัวและเต็มไปด้วยความช่างคิด แสดงให้เห็นชีวิตประจำวันที่แท้จริงภายใต้อำนาจพวกนาซี เป็นการพรรณนาถึงเหยื่อของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่โด่งดังที่สุด อันเนอ ฟรังค์ ได้รับเลือกจากนิตยสารไทมส์ ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อเกียรติภูมิของมนุษย์


ปัญหาปี ค.ศ. 2000

ปัญหาปี ค.ศ. 2000 บางครั้งเรียกว่า ปัญหาวายทูเค (Y2K problem) เป็นปัญหาที่เกิดกับระบบเอกสารและการบันทึกข้อมูล ทั้งในแบบดิจิตอล (เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์) และระบบอนาล็อก สืบเนื่องมาจากการบันทึกปีคริสต์ศักราชจำนวนสี่หลัก ย่อเหลือเพียงสองหลักท้าย โดยละสองหลักแรก คือ "19" และ "20" ไว้ในฐานที่เข้าใจ
ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่ออุปกรณ์ต่างๆ ใช้งานจนถึงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1999 และเข้าสู่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2000 แต่ระบบกลับเข้าใจว่าเป็น ค.ศ. 1900 ทำให้การทำงานของระบบผิดเพี้ยน
ปัญหานี้ถูกหยิบยกมากล่าวถึงเป็นครั้งแรกในหนังสือชื่อ Computers in Crisis เขียนโดย Jerome และ Marilyn Murray ในปี ค.ศ. 1984 และในเครือข่ายยูสเนต ในปี ค.ศ. 1985 [1] สร้างความตื่นตัวในแวดวงธุรกิจ การธนาคาร การแพทย์ และการทหาร ว่าอาจทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาด อาจทำให้ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า โทรศัพท์ ระบบอาณัติสัญญาณ ถึงขั้นหยุดการทำงาน
ความหมายของคำว่า Y2K
Y2K คือคำย่อของ Year 2000 ซึ่งหมายถึงปี ค.ศ. 2000 โดย Y ย่อมาจากคำว่า Year, K เป็นหน่วยในการวัดค่าต่างๆ ในระบบเมตริก มีค่าเท่ากับ 1000 2K จึงมีค่า 2x1000 เท่ากับ 2000
         สาเหตุ
  • การเก็บข้อมูลปี ค.ศ. เฉพาะแค่ 2 หลักท้ายแทนที่จะเก็บเต็ม 4 หลักโดยถือว่า 2 หลักหน้าคือ 19 เสมอ เช่น ค.ศ. 1998 จะเก็บแค่เพียง 98 ดังนั้นข้อมูลในระบบจึงมีค่าอยู่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1900-1999 เท่านั้น เมื่อถึงปี ค.ศ. 2000 คอมพิวเตอร์ยังคงถือว่า 2 หลักหน้าคือ 19 อยู่เหมือนเดิม เมื่อป้อนปีเป็น 00 ซึ่งหมายถึงปี ค.ศ. 2000 คอมพิวเตอร์ยังคงตีความว่าเป็นปี ค.ศ. 1900 เหมือนเดิม คังนั้นการคำนวณเกี่ยวกับระยะเวลา เช่น การคำนวณอายุ การคำนวณระยะเวลา การชำระหนี้และการเรียงลำดับข้อมูลจึงผิดพลาดหมด
  • การคำนวณปีอธิกสุรทิน ไม่ถูกต้องทำให้เดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 2000 มีเพียง 28 วันเท่านั้น ทำให้การคำนวณหาวันที่ในปี (Day of Year) หลังเดือนกุมภาพันธ์ผิดพลาดหมด กฎในการคำนวณปีอธิกสุรทินที่ถูกต้องคือ
1. ปีที่หารด้วย 4 ลงตัวจะเป็นปีอธิกสุรทิน
2. ปีที่หารด้วย 100 ลงตัวจะเป็นและไม่เป็นปีอธิกสุรทิน
3. ปีที่หารด้วย 400 ลงตัวจะเป็นปีอธิกสุรทิน
หากสลับกฎข้อ 2 และกฎข้อ 3 จะทำให้การคำนวณปีอธิกสุรทินของ ปี ค.ศ. 2000 ผิดพลาด

  • ช่วงก่อนวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2000 จะเกิดปัญหา Y2K แต่มีอีกวันที่มีปัญหาคล้ายกันวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1999 เพราะวันนี้อาจจะมีการเขียนในรูปแบบตัวเลข 9/9/99 ก็จะได้ขัดแย้งกับค่าวันที่ 9999 ที่ใช้บ่อยในการระบุวันที่ทราบ มันจึงเป็นไปได้ว่าโปรแกรมฐานข้อมูลอาจจะทำหน้าที่ในระเบียนที่มีวันที่ไม่รู้จักในวันนั้น ค่อนข้างคล้ายกับนี้คือรหัสสิ้นสุดของแฟ้ม 9999 ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาที่มีอายุมากกว่า ในขณะที่ความกลัวเกิดขึ้นที่บางโปรแกรมไม่คาดคิดอาจยุติในวันที่ข้อผิดพลาดก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ระบบประมวลผลของคอมพิวเตอร์
  • การแทนวันและเวลาโดยการนับจากเวลาอ้างอิงในอดีต เช่น ระบบหาตำแหน่งด้วยดาวเทียม (GPS) จะใช้ตัวเลขขนาด 10 บิต (Bits) แทนค่าเวลาเป็นสัปดาห์ นับตั้งแต่เดือนมกราคม 1980 เป็นต้นมา ซึ่งจะแทนค่าได้ 1024 สัปดาห์ และจะ Roll Over ในวันที่ 21 สิงหาคม 1999 ระบบ Unix เก็บวันและเวลาโดยการแทนค่าวินาทีนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 1970 ด้วยตัวเลขขนาด 32 บิต ซึ่งจะ Roll Over ในปี 2038 เป็นต้น